การตั้งคำถาม โดยเฉพาะของเด็กมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการพัฒนาสมองในด้านการคิดวิพากษ์ การคิดวิเคราะห์ และเป็นการสื่อสารกันระหว่างพ่อ แม่ ลูก แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว พ่อแม่มีบทบาทในการตอบสนองลูก และสานต่อความสนใจของลูก เป็นการพัฒนาต่อยอดการเรียนรู้ของเด็ก
เด็กถามคำถามเพราะอะไร
เกิดความอยากรู้ (Curiosity) ขึ้นภายในจิตใจและอยากหาคำตอบเพื่อคลายความสงสัยนั้น ความอยากรู้มีความสำคัญ เพราะช่วยพัฒนาการคิดที่เรียกว่า Critical thinking หรือการคิดเชิงวิพากษ์ซึ่งการคิดแบบนี้สำคัญต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กเป็นการคิดแบบพิจารณาส่ิงที่สงสัยอย่างตั้งใจ และอยากหาคำตอบ พยายามหาข้อมูล หรือแนวทางใหม่ ๆ ในการหาคำตอบที่แตกต่างจากคนอื่น แต่สมเหตุสมผลกว่าในความคิดของเขา
การตั้งคำถามแสดงถึงความผูกพันในครอบครัว หากไม่มีความผูกพันในบ้านในครอบครัวเด็กจะไม่กล้าถามพ่อแม่ การที่เด็กถาม พ่อแม่ควรจะดีใจ แสดงว่าสัมพันธภาพในครอบครัวยังดีอยู่
การตั้งคำถามเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง เด็กต้องการสื่อสารว่าเขามีข้อสงสัย และต้องการคนที่จะช่วยอธิบายให้หายสงสัย และเด็กจะ
เลือกถามคนที่เขารักและไว้วางใจ อย่างเช่นพ่อแม่ที่เขาคิดว่าสามารถช่วยอธิบายได้ ฉะนั้นเมื่อเด็กถามพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ต้องตอบสนองไม่เช่นนั้นเด็กอาจรู้สึกว่าเขาไม่มีที่พึ่ง
เด็กแต่ละวัยกับการตั้งคำถาม
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก ของ จอห์น เพีย นักจิตวิทยา ได้กล่าวไว้ว่า เด็กวัย 2-6 ปี เป็นช่วงการพัฒนาความคิดของการใช้เหตุผลที่ยังไม่สมบูรณ์ (Pre-operation stage) พอจะใช้เหตุผลได้แต่ยังไม่เต็มที่ แต่ทักษะด้านภาษาของเด็กจะเบ่งบาน สามารถถาม - ตอบ ปลูกฝังและสอนสิ่งต่าง ๆ ให้เด็กได้มากผ่านการถาม-ตอบ
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
: นิตยสารรักลูก (ปีที่33 ฉบับที่ 387 เมษายน 2558)